top of page

PLAY ACADEMY

Institute of Child Cognitive Development and Positive Parenting

Play & Grow

Active Brain : Starter (3+ Yrs)

Active Brain : Starter (3+ Yrs)

What Do We Teach?

“Play Acedemy” มิได้มีเป้าหมายให้ผู้เรียนสะสมความรู้เพียงเพื่อเข้าสู่สนามแข่งขันทางเศรษฐกิจ หากแต่ต้องการบ่มเพาะเมล็ดพันธุ์ผู้เรียนเหล่านี้ให้เป็นผู้ “คิดได้” และ “คิดเป็น” มีความภาคภูมิใจในตัวเอง รู้จักตัวเอง มีความมั่นคงของจิตใจจากโลกภายในของตนเอง บริหารจัดการกับอารมณ์และความรู้สึกได้ รู้ว่า “ความสุข” และคุณค่าที่แท้จริงของชีวิตคืออะไร ภายใต้ศักยภาพที่เขาเป็นอยู่ และมีความพร้อมต่อการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของโลกใบนี้ด้วยความ “เข้าใจ”

ผู้ปกครองไม่จำเป็นต้องเข้าห้องเรียนกับบุตรหลาน นอกจากช่วงแรกของการเรียนการสอนที่บุตรหลานยังไม่สามารถปรับตัวได้ดีพอ ผู้ปกครองสามารถเข้าไปอยู่ในห้องเรียนเพื่อให้เด็กเกิดความมั่นคงปลอดภัยทางอารมณ์

วิดีโอแนะนำหลักสูตร Active Brain : Starter

1. รายละเอียดหลักสูตร Active Brain : Starter

พ่อ แม่ และผู้ปกครองที่สนใจให้บุตรหลาน เข้าเรียนที่สถาบัน Play Academy กรุณานัดหมายล่วงหน้าอย่างน้อย 1 วัน เพื่อพาบุตรหลานเข้าประเมินพัฒนาการและทักษะ โทร. 083-596-5596

 

หลักสูตร Active Brain : Starter

  • เหมาะสําหรับเด็กอายุ 3 - 4 ขวบขึ้นไป (ช่วงชั้นอนุบาล 1 - 2)

  • ระยะเวลาเรียน 40 ครั้ง (เรียนสัปดาห์ละ 1 ครั้ง ครั้งละ 1 ชั่วโมง)

  • ค่าเรียน 33,500 บ. (มีอายุการเรียน 1 ปี)

  • ใช้ภาษาไทยในการเรียนการสอน

หลักสูตร Active Brain : Starter มุ่งเน้นการพัฒนาเชาวน์ปัญญาควบคู่กับการพัฒนา ทักษะสมอง EF โดยใช้ของเล่น เกมการศึกษา บอร์ดเกมสําหรับเด็ก และอุปกรณ์ต่างๆเป็น เครื่องมือหลักในการเรียนการสอน ในแต่ละครั้ง (ระยะเวลา 1 ช.ม.) ที่เด็กๆได้เข้าร่วมกิจกรรมนั้นจะมีกิจกรรม 4 รูปแบบ

หลักสูตรนี้ รับนักเรียนกลุ่มละ 4 คน โดยในแต่ละครั้งที่เด็กๆ ได้เข้าร่วมกิจกรรมนั้น จะมีกิจกรรม 4 รูปแบบ ได้แก่

  1. กิจกรรมพัฒนาเชาวน์ปัญญา และทักษะการคิด

  2. พัฒนาทักษะสมอง EF

    • Working Memory (การจําเพื่อใช้งาน)

    • Self-Control (การควบคุมตัวเอง)

    • Shift / Cognitive Flexibility (การยืดหยุ่นความคิด ปรับตัวเป็น)

    • Focus (ความจดจ่อต่อกิจกรรมที่อยู่ตรงหน้า) – Emotional Control (การควบคุมอารมณ์)

  3. ฝึกลีลามือโดยเริ่มจากเส้นพื้นฐานสําหรับเด็กปฐมวัย 13 เส้น

  4. การฟังจับใจความตามวัย เช่น ฟังนิทาน คําสั่ง ขั้นตอนในการเล่น กฏกติกา เป็นต้น

 

 

 

2. สิ่งที่ Play Academy อยากให้พ่อแม่ได้ทราบและเข้าใจ

2.1 เชาวน์ปัญญา คืออะไร ?

 

เชาวน์ปัญญา คือ ความสามารถในการเรียนรู้ การทําความเข้าใจ และให้เหตุผลได้ ยัง ครอบคลุมถึงความสามารถในการบริหารจัดการอารมณ์ของตนเอง และปรับตัวเป็นต่อสถาน การณ์ต่างๆได้ดี สิ่งที่วัดความสําเร็จสูงสุดด้านเชาวน์ปัญญาในเด็กคนหนึ่งนั้นไม่ได้วัดจากค่าตัว เลขที่สูงแต่วัดจากความสามารถในการตัดสินใจ และทักษะการแก้ปัญหาที่ดีที่สุดภายใต้ เงื่อนไขและทรัพยากรที่มีอยู่

เชาวน์ปัญญาจึงไม่ใช่เพียงเรื่องที่เด็กคนหนึ่งฉลาดหรือไม่ฉลาด เรียนเก่งหรือเรียนไม่ เก่ง แท้จริงแล้ว เชาวน์ปัญญาคือความสามารถในการทําความเข้าใจสิ่งต่างๆได้ดี มีปฏิภาณ ไหวพริบ ทักษะการเอาตัวรอด และแก้ปัญหาไปได้นั่นเอง

Play Academy จัดการศึกษาเพื่อพัฒนาเชาวน์ปัญญาและทักษะการคิดของเด็กโดยใช้ หัวข้อการเรียนรู้ตามวัยซึ่งหัวข้อเหล่านี้ครอบคลุมตั้งแต่ความรู้รอบตัว การสังเกต การคิดวิเคราะห์ เด็กๆจะได้เรียนรู้หัวข้อต่างๆมากถึง 60 หัวข้อ เช่น การสังเกตภาพ การจําอย่างเป็น ระยะ อนุกรม บล็อคลูกบาศก์ การเรียงลําดับเหตุการณ์ เป็นต้น

2.2 ทักษะสมอง EF คืออะไร ?

Executive Functions คือ หน้าที่ของสมองส่วนหน้า ซึ่งเป็นสมองส่วนที่ใหญ่ที่สุด และ สําคัญที่สุดสําหรับมนุษย์ สมองส่วนหน้า (Pre-Frontal Cortex) ทําหน้าที่คิดวิเคราะห์ วางแผน แก้ปัญหา ควบคุมอา รมณ์ ควบคุมการกระทําของตัวเราเองรวมถึงเป็นที่อยู่ของลักษณะนิสัยต่างๆ เช่น เป็นคนที่ มีความเพียรพยายาม มีจิตใจที่แข็งแกร่ง มีทัศนคติที่ดีต่อการดําเนินชีวิต

“สมองส่วนหน้าจึงทําหน้าที่บริหารจัดการชีวิต”

งานวิจัยของ Child Developing Center แห่งมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดพบว่า เด็กคน ใดก็ตามที่ได้รับการฝึกทักษะสมอง EF จะประสบความสําเร็จในชีวิต (คิดดี คิดเป็น พึ่งพาตัว เองได้ แก้ปัญหา เป็น อยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข ปรับตัวเป็น และมีทักษะที่ดีในการ ทํางาน) มากกว่าเด็กที่ ไม่ได้รับการฝึกมา แม้แต่การที่เด็กสองคนที่มีต้นทุนทางครอบครัว และการศึกษาแบบเดียวกันทุก ประการแล้วเด็กคนหนึ่งประสบความสําเร็จในชีวิตมากกว่าอีกคนหนึ่งก็เพราะได้รับการ ฝึกทักษะ EF มามากกว่านั่นเอง

EF ไม่ใช่เรื่องที่เกิดขึ้นได้ตามธรรมชาติหากแต่ EF เกิดจากการฝึกฝนอย่างถูกวิธี เด็ก ทุกคนมี ศักยภาพที่จะพัฒนาทักษะ EF ได้ และช่วงโอกาสทองของชีวิตในการพัฒนา EF คือ ช่วงวัย 3 – 6 ขวบ (วัยอนุบาล) เพราะเป็นช่วงที่สมองมีอัตราส่วนการเจริญเติบโตสูงสุดในชีวิ ตอย่างเห็นได้ชัด เด็กเริ่มทําความเข้าใจสิ่งรอบตัวได้ดี กล้ามเนื้อแข็งแรงมากพอที่จะช่วยเหลือ ตัวเองได้ และมี ทักษะการสื่อสารที่พัฒนาขึ้นตามลําดับจึงเป็นโอกาสที่พ่อแม่ควรบ่มเพาะ ทักษะสมอง EF ให้ลูก อย่างจริงจัง หากพ้นช่วงวัยนี้ไปแล้ว EF ของมนุษย์แต่ละคนจะไม่ พัฒนาไปมากกว่านั้นอีกแล้วซึ่ง เป็นเรื่องที่น่าเสียดายถ้าพ่อแม่ และผู้เลี้ยงดูจะปล่อยให้แต่ละ วันของเด็กผ่านพ้นไปอย่างไม่คุ้มค่า

Play Academy ได้ตระหนักและเห็นความสําคัญอย่างยิ่งต่อการพัฒนาเชาวน์ปัญญา และทักษะ EF ในเด็กวัยอนุบาลจึงได้จัดทําหลักสูตร Active Brain : Starter – Advance ขึ้น มาโดยนําหัวข้อการเรียนรู้ที่ครอบคลุมตั้งแต่ความรู้รอบตัวที่เด็กควรรู้ เชาวน์ปัญญา ทักษะ การคิดวิเคราะห์ การสังเกต ความจํามาจัดกระบวนการเรียนรู้ผ่านการเล่นและการลงมือทํา อย่างเป็นรูปธรรม เด็กจึงได้รับการส่งเสริมให้สมองส่วนหน้าทํางานเชื่อมโยงกับสมองส่วนอื่นๆอย่างมีประ สิทธิภาพ ทําให้เด็กมี Working Memory (ความจําเพื่อนําไปใช้งาน) ที่ดี จดจ่อ (Focus) ได้ ดีตามวัยมีสมาธิสามารถควบคุมตัวเองได้ดี(Self-Control)มีความเพียรพยายาม สามารถ บริหารจัดการอารมณ์ได้ (Emotional Control) ยับยั้ง มีวินัย และเรียนรู้ที่จะปรับตัวเพื่อทํา กิจกรรมร่วมกับเพื่อนในวัยเดียวกันได้อย่างสันติ

3. ประโยชน์ที่เด็กจะได้รับจากการเรียนในหลักสูตร Active Brain : Starter

  1. สามารถทําความเข้าใจข้อมูลของสื่งที่อยู่รอบตัวได้ไว ไม่ว่าจะเห็นนอกห้องเรียนหรือใน ห้องเรียนก็ตาม

  2. มีทักษะการฟังที่ดี (ทักษะการฟังเป็นทักษะสําคัญตลอดชีวิตทั้งการศึกษา การ ทํางาน และชีวิตประจําวัน)

  3. เป็นเด็กที่คิดวิเคราะห์เป็น (มองภาพใหญ่เป็นภาพย่อยๆได้ และมองภาพย่อยเป็นว่าสัมพันธ์ อย่างไรกับภาพใหญ่) การคิดวิเคราะห์เป็นพื้นฐานของการคิดเป็นเหตุเป็นผลทําให้เด็กแก้ ปัญหาได้ดี

  4. เป็นเด็กช่างสังเกต ช่างคิด ช่างถามซึ่งเป็นส่ิงที่ดีมากสําหรับการเรียนรู้อย่างไร้ขอบเขตต่อ ไป

  5. เป็นเด็กที่มีความจําเพื่อนําไปใช้งานได้ดี (Working Memory) ไม่ใช่การท่องจําเฉยๆเพื่อ สอบ หรือท่องแบบไม่รู้ความหมายแต่จะนําประสบการณ์ที่ตนเองมีไปใช้เมื่อพบเจอกับสถาน การณ์ จริงได้

  6. สามารถควบคุมตัวเองได้ดี (Self-Control) ยับยั้งตัวเองไม่ให้ทําในสิ่งที่ไม่เหมาะสมได้ ประเด็น นี้เป็นสิ่งที่เด็กสมาธิสั้นบกพร่อง

  7. จดจ่อกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า (Focus) มีสมาธิทํางานต่างๆให้สําเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี โดยพ่อแม่ หรือผู้เลี้ยงดูไม่ต้องบังคับ ขู่เข็ญ

  8. เป็นเด็กที่มีไหวพริบดี รู้จักปรับตัวไปใช้วิธีอื่นๆได้อย่างไม่ลําบากเมื่อสิ่งที่ตนเลือกตอนแรก ไม่ สามารถทําได้ (Cognitive Flexibility) เรื่องนี้สําคัญกับการใช้ชีวิตทั้งในปัจจุบันและ อนาคตอีก ยาวไกล เด็กที่ไม่ flexible มักจะแก้ปัญหาได้ไม่ดี

  9. ทําให้เด็กรู้จัก เข้าใจ บริหารจัดการ และควบคุมอารมณ์ของตนเองได้ดี ไม่โวยวายหรือ จมอยู่ กับความทุกข์ความผิดหวังนานเกินไป

  10. ทําให้เด็กมีความเพียรพยายามในการทําสิ่งต่างๆให้สําเร็จแม้จะต้องพานพบกับปัญหาหรือ อุปสรรคก็ตาม

  11. เด็กได้เรียนรู้ถึงคุณค่าในตนเอง (Self-Esteem) เห็นผลของการกระทําของตนเองว่าแม้ ในครั้ง แรกๆจะทําไม่ได้แต่เมื่อได้ฝึกฝนอย่างต่อเนื่องแล้วตนก็สามารถทําได้ ไม่มีวิธีใดสร้างให้ เด็กภาค ภูมิใจในตัวเองได้ดีเท่าเด็กพิสูจน์จากการกระทําของตนเอง

  12. ทําให้เด็กมีพื้นฐานด้านการจัดลําดับความสําคัญ (คิดเป็น) และการวางแผนต่อไป

  13. เสริมสร้างให้เด็กมีความซื่อสัตย์ต่อตนเองและผู้อื่น เรียนรู้การปฏิบัติตัวอย่างเหมาะสมกับ ผู้อื่น เคารพผู้อื่นซึ่งเป็นพื้นฐานของจริยธรรมในชีวิตต่อไป

ทางโรงเรียนให้ความสําคัญมากกับการมีส่วนร่วมของครอบครัวในการพัฒนาเด็กจึงมี การรายงาน ผลการประเมินการเรียนการสอนทุกครั้งหลังจากที่ทํากิจกรรมเสร็จ เพ่ือให้ผู้ปกครองได้รับทราบ เข้าใจถึงวัตถุประสงค์ของกิจกรรมที่ฝึกให้เด็กในครั้งนั้นๆ และการทํา ความเข้าใจของผู้เรียนเอง พร้อมแนะนําเทคนิคต่างๆไปฝึกเพิ่มเติมที่บ้าน

Play Academy มิได้มีเป้าหมายให้ผู้เรียนสะสมความรู้เพียงเพื่อเข้าสู่สนามแข่งขันทาง เศรษฐกิจ หากแต่ต้องการบ่มเพาะเมล็ดพันธุ์ผู้เรียนเหล่านี้ให้เป็นผู้ “คิดได้”และ “คิดเป็น” มีความภาคภูมิใจในตัวเอง รู้จักตัวเอง บริหารจัดการกับอารมณ์และความรู้สึกได้ รู้ว่าความสุข และคุณค่าที่แท้จริงของชีวิตคืออะไรภายใต้ศักยภาพ และตัวตนที่เขาเป็นอยู่โดยครอบครัวต้อง เข้ามีส่วนร่วมด้วย ดังนั้น ในทุกครั้งหลังเสร็จสิ้นการเรียนการสอน พ่อแม่และผู้เลี้ยงดูจะเข้า รับฟังการประเมินเพื่อทราบถึงพัฒนาการและทักษะการคิดของบุตรหลานอย่างต่อเนื่อง

คุณพ่อ คุณแม่ และผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมหรือนัดหมาย เพื่อเข้ารับการประเมินพัฒนาการและทักษะของบุตรหลานผ่านทางโทรศัพท์ โทร. 083-596-5596

4. ค่าเรียนในหลักสูตร Active Brain : Starter

จำนวนครั้งที่สมัคร
ค่าธรรมเนียมแรกเข้า
ค่าเรียน
40 ครั้ง
1,500 บาท
33,500 บาท
20 ครั้ง
3,000 บาท
19,500 บาท

หมายเหตุ :

  1. สิทธิพิเศษสำหรับผู้สมัครเรียนเต็มหลักสูตร (40 ครั้ง) จะได้รับการงดเว้นค่าธรรมเนียมแรกเข้า เมื่อมีการสมัครเรียนในวันที่ทำการประเมินพัฒนาการ

  2. หากทำการสมัครเรียนในวันถัดจากทำการประเมิน จะมีค่าแรกเข้าตามตารางที่แจ้งไว้

5. ระเบียบการชำระเงิน

สถาบัน Play Academy รับชำระค่าเรียนผ่าน I – Banking หรือโอนผ่านเคาน์เตอร์ธนาคารเท่านั้น ขอให้ท่านผู้ปกครองช่วยสำรองเงินสดไว้ในบัญชีที่สะดวกโอน กรณีชำระด้วยบัตรเครดิตจะมีค่าธรรมเนียมธนาคารร้อยละ 5

ธนาคารกรุงเทพ

สาขา เดอะ เซอร์เคิล ราชพฤกษ์

ชื่อบัญชี บจ. เพลย์ เอ็ดดูเคชั่น (ประเทศไทย)

เลขที่บัญชี  089-7-08595-7

6. ระเบียบการนัดหมายเพื่อเข้ารับการประเมินพัฒนาการ

  1. ผู้ปกครองที่สนใจให้บุตรหลานสมัครเรียน กรุณานัดหมายล่วงหน้าอย่างน้อย 1 วัน

  2. เมื่อทำการนัดหมายวัน – เวลาเพื่อเข้ารับการประเมินพัฒนาการแล้ว ให้ชำระค่าประเมินทักษะ 4,000 บาท เข้ามาที่บัญชีของสถาบันฯ

  3. ค่าประเมินทักษะที่ผู้ปกครองชำระเข้ามามิได้สูญเปล่า เมื่อท่านทำการสมัครเรียนจะนำเงินจำนวนนี้ไปหักลบกับค่าเรียนเพื่อชำระเฉพาะส่วนต่างต่อไป สามารถสอบถามข้อมูลและนัดหมายเพื่อทำการประเมินพัฒนาการได้ที่ครูปุ๊ก โทร. 083-596-5596

bottom of page