PBL & Life Skills (7 – 11 Yrs)
What Do We Teach?
“Play Acedemy” มิได้มีเป้าหมายให้ผู้เรียนสะสมความรู้เพียงเพื่อเข้าสู่สนามแข่งขันทางเศรษฐกิจ หากแต่ต้องการบ่มเพาะเมล็ดพันธุ์ผู้เรียนเหล่านี้ให้เป็นผู้ “คิดได้” และ “คิดเป็น” มีความภาคภูมิใจในตัวเอง รู้จักตัวเอง มีความมั่นคงของจิตใจจากโลกภายในของตนเอง บริหารจัดการกับอารมณ์และความรู้สึกได้ รู้ว่า “ความสุข” และคุณค่าที่แท้จริงของชีวิตคืออะไร ภายใต้ศักยภาพที่เขาเป็นอยู่ และมีความพร้อมต่อการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของโลกใบนี้ด้วยความ “เข้าใจ”
ALL PROGRAMS
ABOUT US
PROGRAMS
PRODUCTS
PAYMENT
Bangkok Bank, The Circle Ratchapruk
Account Name : Play Education (Thailand)
Account No. : 089-7-08595-7
POLICIES
SUPPORT
FOLLOW US
CONTACT US
Call Center : 083-596-5596, 02-019-8856
Email : PlayAcademyThailand@gmail.com
Website : www.PlayAcademyThailand.com
LINE ID : @playacademy
ADDRESS
PLAY EDUCATION (THAILAND) CO., LTD.
The Circle Ratchapruk (Room B3)
39 Ratchapruk Rd. Bangramard
Talingchan Bangkok 10170
วิดีโอแนะนำหลักสูตร PBL & Life Skills
1. รายละเอียดหลักสูตร PBL & Life Skills
พ่อ แม่ และผู้ปกครองที่สนใจให้บุตรหลาน เข้าเรียนที่สถาบัน Play Academy กรุณานัดหมายล่วงหน้าอย่างน้อย 1 วัน เพื่อพาบุตรหลานเข้าประเมินพัฒนาการและทักษะ โทร. 083-596-5596
หลักสูตร PBL & Life Skills
-
เหมาะสําหรับเด็กอายุ 7 - 11 ปี (ชั้นประถมศีกษาปีที่ 1 - 6)
-
ระยะเวลาเรียน 40 ครั้ง (80 ชั่วโมง)
-
เรียนครั้งละ 2 ชั่วโมง
-
ใช้ภาษาไทยในการเรียนการสอน
เน้นการพัฒนาทักษะ EF (Executive Functions) ซึ่งเป็นการทํางานของสมองส่วนหน้าอย่าง เต็มประสิทธิภาพ โดยใช้แนวคิด Problem – Based Learning (การเรียนรู้ตามพัฒนาการของสมอง และทักษะการแก้ปัญหาเป็นฐาน) เพื่อให้เด็กมีความสามารถในการคิดวิเคราะห์ แก้ปัญหาควบคู่กับการมี ทักษะในการควบคุมตัวเอง ยับยั้งชั่งใจเป็น มีไหวพริบ อยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างสันติอันเป็นคุณลักษณะที่ จําเป็นต่อชีวิตที่สําเร็จในศตวรรษที่ 21
หลักสูตรนี้ รับนักเรียนกลุ่มละ 5 คน
ผู้เรียนจะเรียนผ่านการลงมือทํา (Learn by Doing) โดยใช้บอร์ดเกมเป็นเครื่องมือหลัก เพื่อ จําลองสถานการณ์ของปัญหาจากภายนอก และฝึกทักษะทางสังคมได้เป็นอย่างดี เด็กช่วงอายุ 7-11 ปีหรือเด็กระดับประถมศึกษาจะมีตัวตน (Self) ที่มั่นคงสามารถสื่อสารความคิดของตนเองออกมาได้ดี และเป็นช่วงที่พัฒนาการทางความคิดทํางานได้อย่างมีประสิทธิภาพตามธรรมชาติ ถึงเวลาที่สมองส่วนหน้า ที่ทําหน้าที่เกี่ยวกับการวิเคราะห์ วางแผน และแก้ไขปัญหามีความพร้อมที่จะทํางานอย่างครบถ้วน
นักประสาทวิทยาพบว่าโครงการสมองของเด็กวัยนี้ยังมีปริมาณจุดเชื่อมเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้น และลดลงอยู่ เรื่อยๆแต่หลังจากลูกอายุเกิน 12 ปีไปแล้ว หากเส้นใยสมองส่วนใดไม่ได้รับการกระตุ้นจากข้อมูล ภายนอกจะเกิดปรากฏการณ์สลายตัวไป ดังนั้น ช่วงวัย 6-12 ปีจึงเป็นช่วงเวลาทองที่จะสร้างทักษะที่จําเป็นต่อการใช้ชีวิตในระยะยาวของเด็กคนหนึ่งต่อไป ทักษะที่จําเป็นต่อการดําเนินชีวิตของเด็กให้คนให้ เติบโตขึ้นเป็นคนดี พึ่งพาตัวเองได้ และมีความสุขคือ “ทักษะการคิดอย่างเป็นระบบ” และ “ทักษะชีวิต” นั่นเอง
Play Academy จึงเน้นการบ่มเพาะทักษะการวิเคราะห์ คิดวางแผน คิดมีเหตุผล และมีทักษะใน การแก้ปัญหาให้แก่เด็กอายุ 6-12 ปีด้วยการใช้บอร์ดเกม ของเล่นพัฒนาทักษะการคิด กิจกรรมพัฒนา ทักษะ EF หรือ Executive Functions ซึ่งเป็นการทํางานของสมองส่วนหน้าด้านการรู้คิด การใช้เหตุผล การวางแผน การแก้ไขปัญหา ความเพียรพยายาม การควบคุมอารมณ์ เป็นต้น โดยใช้บอร์ดเกม และ กิจกรรมจําลองสถานการณ์จริงเป็นเครื่องมือหลักในการพัฒนากระบวนการคิดของเด็กให้เป็นระบบ
ในช่วง 3 ปีมานี้ บอร์ดเกมสําหรับเด็ก และครอบครัวจากต่างประเทศเริ่มเข้ามามีอิทธิพลต่อการ เรียนรู้ทักษะการคิดของเด็กไทยมากขึ้น และตลอด 3 ปีที่ผ่านมา Play Academy ได้ริเริ่มใช้บอร์ดเกม พัฒนาทักษะการคิดของเด็กวัยประถมศึกษาอย่างเป็นรูปธรรม
2. ประโยชน์ของการเรียนรู้ผ่านบอร์ดเกม
-
บอร์ดเกมใช้ฝึกทักษะการคิด (Thinking Skill) ได้ดีมาก ในเด็กอายุ 6 ปีขึ้นไปเป็นวัยที่เหมาะสมใน การฝึกทักษะการคิดเชิงกลยุทธ์ เนื่องจาก เป็นวัยที่เรียนรู้เหตุ และผลได้ดีขึ้น สามารถคิดคาดการณ์ล่วง หน้าได้ บอร์ดเกมที่ซับซ้อนช่วยพัฒนาให้เด็กรวบรวมข้อมูลของเกมได้ดี ตั้งแต่เป้าหมาย กติกา รวมถึงคิดได้อย่างมีวิจารณญาณระหว่างลงมือเล่น
-
บอร์ดเกมใช้พัฒนาทักษะการแก้ปัญหา (Problem-Solving Skill) ได้ดี บอร์ดเกมสมัยใหม่มักจําลอง ภาพรวมของเกมเป็นสถานการณ์ที่ผู้เล่นต้องแก้ปัญหาภายใต้ทรัพยากร และเวลาที่มีอยู่ ในช่วงแรกของ การเรียนรู้ บอร์ดเกมหลายบอร์ดอาจดูยากไปสําหรับผู้เล่น แต่เมื่อได้ลงมือทําซ้ําด้วยความถี่ที่เหมาะสม ผู้เล่นจะพัฒนาความสามารถในการคิดแก้ปัญหาได้ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดค่ะ โดยไม่ต้องใช้การบังคับหรือ สร้างความกดดันใดๆทั้งสิ้น เพราะ แนวทางการสอนจะเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไป และส่งเสริมให้ผู้เล่น เห็นคุณค่าในตัวเองว่า “หนูเก่งมากกว่าที่หนูคิด” และ “หนูสามารถทําได้ดีกว่าที่กําลังทําอยู่”
-
บอร์ดเกมใช้พัฒนาทักษะทางสังคม (Social Emotional Learning Skill) ได้ดีมาก เกมที่มีลักษณะ เป็นคู่หรือทีม เด็กๆจะต้องรู้จักแบ่งงานกัน รับฟังความคิดเห็นซึ่งกัน และกัน รู้จักการใช้เหตุผลของตัว เองเจรจากับเพื่อน รอคอย มีน้ําใจนักกีฬา รู้แพ้ ชนะ อภัย ระหว่างเล่นมีการหยอกล้อกัน ได้เรียนรู้ อารมณ์ และเหตุผลของผู้อื่น สิ่งเหล่านี้มีความสําคัญอย่างยิ่งต่อการปรับตัวอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างสันติ ในอนาคต
-
บอร์ดเกมใช้พัฒนาศีลธรรมจรรยา (Ethical Characteristics) ได้ดี ระหว่างการเล่นผู้เล่นซื่อตรงต่อ กฏ กติกา เมื่อพบว่าตนเองทุจริตโดยตั้งใจหรือไม่ได้ตั้งใจก็กล้ามากพอที่รับผิดด้วยตนเอง คุณสมบัตินี้มี คุณค่าสําหรับมนุษย์มาก เพราะ เป็นความเจริญส่วนตัวที่มีมาจากภายใน และนําไปสู่ความนับถือตัวเอง
-
บอร์ดเกมทําให้เด็กเห็นคุณค่าในตัวเอง (High Self-Esteem) และมีภาพลักษณ์แห่งตน (Self-Image) ที่ดี กล่าวคือ เมื่อลงมือเรียนรู้ในครั้งแรก หลายต่อหลายคนยังไม่เข้าใจ ยังรวบรวมข้อมูลได้ไม่ทั้งหมด ยัง ตัดสินใจได้ไม่ดีนัก แต่เมื่อมีความพยายามที่สม่ําเสมอ กล้าตัดสินใจลงมือทํา เด็กทุกคนสามารถ พัฒนาการเล่นได้จนบรรลุเป้าหมายของเกม เด็กได้เรียนรู้เส้นทางก่อนที่จะประสบความสําเร็จในเกม ทําให้เด็กหลายคนมีความภาคภูมิใจในตัวเอง เชื่อมั่นว่า “หนูทําได้” และมีภาพลักษณ์แห่งตนที่ดี ทําให้ เด็กไม่กลัวปัญหา ไม่ย่อท้อต่ออุปสรรค และรู้ว่าตัวฉันมีดีอะไร
-
บอร์ดเกมช่วยให้เด็กเบี่ยงเบนความสนใจจากสื่ออิเลคทรอนิคส์ และอุปกรณ์สื่อสารต่างๆได้ดี และยัง ทําให้เกิดกิจกรรม และเวลาคุณภาพในครอบครัวได้ด้วย
3. การจัดการเรียนการสอนในทุกครั้ง จะครอบคลุมการพัฒนาทักษะ ดังต่อไปนี้
-
กระบวนการคิดอย่างเป็นระบบ
-
พัฒนาทักษะสมอง EF
-
Working Memory (การจําเพื่อใช้งาน)
-
Self-Control (การควบคุมตัวเอง)
-
Shift / Cognitive Flexibility (การยืดหยุ่นความคิด ปรับตัวเป็น)
-
Focus (ความจดจ่อต่อกิจกรรมที่อยู่ตรงหน้า) – Emotional Control (การควบคุมอารมณ์)
-
Emotional Control (การควบคุมอารมณ์)
-
Self-monitoring (การติดตามประเมินตนเอง อะไรที่พลาดแล้วจะไม่พลาดซ้ำ)
-
Initiating (คิดและกล้าตัดสินใจลงมือทำ)
-
Planning & Organizing (การวางแผน จัดลำดับความสำคัญเป็น)
-
Goal-directed Persistence (มีความเพียรพยายาม มุ่งสู่เป้าหมาย)
-
-
ทักษะที่มีผลต่อความสําเร็จในชีวิตของเด็กในศตวรรษที่ 21
-
การคิดวิเคราะห์ และทักษะการแก้ปัญหา (Critical Thinking & Problem-Solving Skill)
-
ความคิดสร้างสรรค์ (Creativity)
-
ทักษะการทํางานเป็นทีม (Collaboration)
-
ทักษะการสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ (Communication)
-
ทางโรงเรียนยังเน้นการจัดการเรียนรู้โดยให้ครอบครัวเข้ามามีส่วนร่วมจึงมีการรายงานผลการ ประเมินการเรียนการสอนทุกครั้งหลังจากที่ทํากิจกรรมเสร็จ เพื่อให้ผู้ปกครองได้รับทราบ เข้าใจถึง วัตถุประสงค์ของกิจกรรมที่ฝึกให้เด็กในครั้งนั้นๆ และการทําความเข้าใจของผู้เรียนเอง พร้อมแนะนํา เทคนิคต่างๆไปฝึกเพิ่มเติมที่บ้าน
4. ค่าเรียนในหลักสูตร PBL & Life Skills
หมายเหตุ :
-
สิทธิพิเศษสำหรับผู้สมัครเรียนเต็มหลักสูตร (40 ครั้ง) จะได้รับการงดเว้นค่าธรรมเนียมแรกเข้า เมื่อมีการสมัครเรียนในวันที่ทำการประเมินพัฒนาการ
-
หากทำการสมัครเรียนในวันถัดจากทำการประเมิน จะมีค่าแรกเข้าตามตารางที่แจ้งไว้
5. ระเบียบการชำระเงิน
สถาบัน Play Academy รับชำระค่าเรียนผ่าน I – Banking หรือโอนผ่านเคาน์เตอร์ธนาคารเท่านั้น ขอให้ท่านผู้ปกครองช่วยสำรองเงินสดไว้ในบัญชีที่สะดวกโอน กรณีชำระด้วยบัตรเครดิตจะมีค่าธรรมเนียมธนาคารร้อยละ 5
ธนาคารกรุงเทพ
สาขา เดอะ เซอร์เคิล ราชพฤกษ์
ชื่อบัญชี บจ. เพลย์ เอ็ดดูเคชั่น (ประเทศไทย)
เลขที่บัญชี 089-7-08595-7
6. ระเบียบการนัดหมายเพื่อเข้ารับการประเมินพัฒนาการ
-
ผู้ปกครองที่สนใจให้บุตรหลานสมัครเรียน กรุณานัดหมายล่วงหน้าอย่างน้อย 1 วัน
-
เมื่อทำการนัดหมายวัน – เวลาเพื่อเข้ารับการประเมินพัฒนาการแล้ว ให้ชำระค่าประเมินทักษะ 4,000 บาท เข้ามาที่บัญชีของสถาบันฯ
-
ค่าประเมินทักษะที่ผู้ปกครองชำระเข้ามามิได้สูญเปล่า เมื่อท่านทำการสมัครเรียนจะนำเงินจำนวนนี้ไปหักลบกับค่าเรียนเพื่อชำระเฉพาะส่วนต่างต่อไป สามารถสอบถามข้อมูลและนัดหมายเพื่อทำการประเมินพัฒนาการได้ที่ครูปุ๊ก โทร. 083-596-5596