About Play Academy

สถาบัน Play Academy ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2554 โดย ครูปุ๊ก - ชลมาศ คูหารัตนากร (นักพัฒนาการ พฤติกรรมและสุขภาพจิตเด็ก) แรงบันดาลใจในการดำเนินงาน Play Academy เกิดจากครูปุ๊กให้ความสำคัญกับเด็กเพราะเป็นช่วงวัยที่เป็นรากฐานของชีวิตทั้งชีวิต ประสบการณ์ที่เด็กได้รับผ่านการเลี้ยงดูและการศึกษาจะเป็นความทรงจำที่อยู่ในตัวเด็กตลอดไปอันส่งผลต่อบุคลิกภาพ การปรับตัวและทัศนคติต่อตัวเอง ผู้อื่นและโลกใบนี้ในระยะยาว

หลังจากได้เรียนวิชาจิตวิทยาพัฒนาการ วรรณกรรมเด็กและวัยรุ่นในช่วงที่ปริญญาตรี ทำให้ครูปุ๊กตัดสินใจทำงานแรกหลังเรียนจบด้วยการเป็นครูปฐมวัยและครูชั้นประถมศึกษา หลังจากนั้นได้ศึกษาต่อด้านสุขภาพจิต ภาควิชาจิตเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และในปี 2021 ได้รับ Certificate of Child Development (Behavior and Mental Health) จาก Stanford University สหรัฐอเมริกา รวมทั้งได้รับใบอนุญาตให้เป็นผู้ประเมินพัฒนาการเด็กระดับสากล

ตลอดระยะเวลา 15 ปีที่ผ่านมา (ปัจจุบัน พ.ศ. 2568) Play Academy ได้มีการปรับปรุงหลักสูตรมานับครั้งไม่ถ้วน มีการจัดระบบการเรียนการสอนใหม่เมื่อพบว่าเป็นประโยชน์กับผู้เรียนมากกว่าระบบเดิม พัฒนารูปแบบการฝึกอบรมครูให้มีความสามารถในการจัดกระบวนการเรียนรู้และสื่อสารกับผู้ปกครองได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นตามลำดับ

Play Academy ได้รับความไว้วางใจจากผู้ปกครองจากรุ่นสู่รุ่น แนะนำกันต่ออย่างสุดหัวใจทั้งเรื่องคุณภาพการเรียนการสอนและความเอาใจใส่ของครู ชื่อเสียงของ Play Academy ไม่ได้แพร่กระจายเฉพาะในกรุงเทพฯหากแต่เลื่องลือไปถึงเขตปริมณฑลและทุกจังหวัดทั่วประเทศ หลายครั้งที่ครูปุ๊กได้รับเกียรติจากสื่อมวลชนระดับประเทศเข้าสัมภาษณ์โดยไม่เคยจ่ายเงินจัดจ้างสื่อแต่อย่างใด

ความภูมิใจสูงสุดของ Play Academy คือความสำเร็จในการสร้างเด็กให้มีพัฒนาการแข็งแกร่ง ศักยภาพสูง และมีคุณลักษณะนิสัยที่ดีออกสู่สังคมจากหลักสูตรที่เน้นการสร้างคนให้เป็นทั้งคนเก่งและคนดีที่มีความสุขได้อย่างเป็นที่ประจักษ์ ตลอด 15 ปีที่ผ่านมาเราไม่เคยหวั่นไหวไปกับกระแสการแข่งขันทางเศรษฐกิจ เรายังคงยึดหลักการที่เคยกล่าวไว้ตั้งแต่วันแรกที่เปิดทำการ Play Academy ว่า

“Play Academy มิได้มีเป้าหมายให้ผู้เรียนสะสมความรู้เพียงเพื่อเข้าสู่สนามแข่งขันทางเศรษฐกิจ หากแต่ต้องการบ่มเพาะเมล็ดพันธุ์ผู้เรียนเหล่านี้ให้เป็นผู้ “คิดได้”และ “คิดเป็น” มีความภาคภูมิใจในตัวเอง รู้จักตัวเอง บริหารจัดการกับอารมณ์และความรู้สึกได้และรู้ว่าคุณค่าที่แท้จริงของชีวิตคืออะไร“

งานหลักของ Play Academy แบ่งออกเป็น 4 ด้าน ได้แก่

1. หลักสูตรและการสอน (สำหรับเด็กอายุ 1.6 - 11 ขวบ)
ทุกหลักสูตรใช้แนวทางการจัดการศึกษาแบบ Learn by Doing (เรียนรู้ผ่านการลงมือทำ) โดยใช้ของเล่น เกมการศึกษา และบอร์ดเกมเป็นเครื่องมือหลักในการเรียนการสอน

2. ผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ Play Academy
Play Academy ได้คิดค้น ออกแบบ ผลิต และจำหน่ายผลิตภัณฑ์เพื่อส่งเสริมพัฒนาการตามหลัก Child Development Milestone

3. หลักสูตรห้องเรียนพ่อแม่
เพื่อให้ความรู้ และความเข้าใจแก่พ่อแม่ถึงจิตวิทยาการเลี้ยงดูเชิงบวก มีทั้งรูปแบบ Onsite และ Online

4. งานฝึกอบรม และพัฒนาบุคลากรด้านการศึกษา
มุ่งเน้นการด้านพัฒนาการเด็ก จิตวิทยาการเลี้ยงดูเชิงบวก ทักษะสมอง EF และโรคทางจิตเวชเด็ก เป็นต้น

VISION

สร้างเด็กให้พร้อมต่อการใช้ชีวิตในศตวรรษที่ 21 ผ่านการจัดการศึกษาที่เน้นทักษะชีวิตและจิตวิทยาการเลี้ยงดูเชิงบวก

CORE VALUES

K : Know Inside Out (รู้ลึกรู้จริง)

K : Keen (หลักแหลม)

K : Kindness (มีน้ำใจ เอื้ออารี)

MISSION

สรรค์สร้างหลักสูตรและวิธีการสอนที่ได้รับการยอมรับระดับนานาชาติเพื่อเตรียมความพร้อมด้านสติปัญญา และกระบวนการคิดในรูปแบบ Learning by Doing ได้อย่างเป็นรูปธรรม
จัดกระบวนการเรียนรู้ได้อย่างเป็นขั้นตอนตามหลักธรรมชาติการทำงานของสมองเด็ก และครูมีมาตรฐานการสอนที่เท่าเทียมกัน
ผู้เรียนได้รับการพัฒนาด้านสติปัญญา และกระบวนการคิดอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเรียนหลักสูตรต่างๆจบในหนึ่งปีการศึกษา
ผลิตภัณฑ์ และบริการทุกรูปแบบต้องเกิดประโยชน์กับผู้รับบริการอย่างสูงสุด
สำหรับพนักงาน Play Academy เป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้และพัฒนาตนเองด้านการจัดกระบวนการเรียนรู้ อารมณ์ พฤติกรรมเด็ก และจิตวิทยาการเลี้ยงดูอย่างเป็นรูปธรรม
ให้ความรู้ด้านพัฒนาการเด็ก และจิตวิทยาการเลี้ยงดูที่เต็มไปด้วยคุณภาพผ่านบทความ คลิปวิดีโอ การถ่ายทอดสดสื่อสังคมออนไลน์ และเว็บไซต์โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายสำหรับประชาชนทั่วประเทศที่เข้าถึงสื่อดิจิตอลได้ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างคนคุณภาพให้แก่ประเทศต่อไป
บริการผู้ปกครองด้วยความปรารถนาดี ซื่อตรง มีน้ำใจ และยึดประโยชน์ที่ผู้เรียน และผู้ปกครองจะได้รับเป็นแก่นสำคัญในการทำงาน

เราตั้งใจเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างทรัพยากรมนุษย์ที่มีทักษะการชีวิตในศตวรรษที่ 21 ให้กับสังคมโลกต่อไป